วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ประวัติสุนัขตำรวจ

สุนัขมีต้นกำเนิดมาจากสุนัขป่าสุนัขมีต้นกำเนิดมาจากสุนัขป่า มนุษย์แถบขั้วโลกเหนือนำ มันมาเลี้ยงเมื่อประมาณ 12,000 ปีที่แล้ว เชื่อกันว่า สุนัขป่าตัวแรกนั้น เกิดขึ้นเมื่อ 100 ล้านปีก่อน การอพยพข้ามถิ่นและทวีปต่าง ๆ ทำให้สุนัขมีหลายสายพันธุ์ ชาวจีนมีความเชื่อว่าสุนัขที่ชื่อ Fu มีความซื่อสัตย์ และนำความเจริญมาให้ เป็นสุนัขคล้ายพันธุ์ปักกิ่ง "อนูบิส" ซึ่งเป็นชื่อของเทพเจ้าอียิปต์ที่ตัวเป็นคน หัวเป็นสุนัข และเชื่อว่าสามารถส่งวิญญาณมนุษย์ได้
สุนัขพันธุ์ที่เรียกได้ว่าเป็นสุนัขพันธุ์ต้นตระกูลคือพันธุ์สุนัขทองที่ มีอยู่อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ต่อมามีสุนัขป่าอีกพันธุ์หนึ่งที่มนุษย์นำมาเลี้ยงมีชื่อภาษาละตินว่า Conis Lupees ซึ่งแปลว่าสุนัขป่า สุนัขป่าชนิดนี้จะเชื่องกว่าสุนัขธรรมดา มีขนยาว หางเป็น แผง หูตั้ง กระดูกแก้มโหนก และหางของมันจะเอนขึ้นข้างบน มีนิสัยรักอิสระกว่าสุนัขทอง สุนัขป่านี้เมื่อมาอยู่กับมนุษย์ก็ผสมพันธุ์กับสุนัขทอง ออกลูกหลานสืบมาเป็นสุนัขพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย พันธุ์สุนัขที่เห็นทุกวันนี้ได้รับเชื้อสายมาจากสุนัขพันธุ์ทองเกือบทั้งหมด
การค้นคว้าวิจัยและศึกษาเรื่องราวของสุนัข ได้มีขึ้นในประเทศอังกฤษ ในแถบยุโรปและอเมริกา แล้วจึงแพร่หลายไปในส่วนต่าง ๆ ของโลก ในสหรัฐอเมริกาได้มีการจัดตั้งเป็นสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขขึ้นในปี ค.ศ. 1878 (พ.ศ. 2421) สุนัขพันธุ์แท้ชนิดแรกที่ได้จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาคือ สุนัขพันธุ์อิงลิชเซทเตอร์ ในประเทศอังกฤษได้มีการรวบรวมกันตั้งสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขขึ้นเช่นกันในปี ค.ศ. 1859 (พ.ศ. 2402) ในครั้งแรกสมาคมนี้ได้รับรองให้จดทะเบียนสุนัขพันธุ์แท้ได้ 40 สายพันธุ์ และได้จัดวิธีการรับรองสุนัขพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อความเหมาะสมถึง 2 ครั้ง ในปี ค.ศ. 1881 (พ.ศ. 2424) สมาคมนี้ได้ให้การรับรองพันธุ์แท้ต่าง ๆ รวมเป็นจำนวน 46 พันธุ์ การแก้ไขเพิ่มเติมการรับรองเป็นสุนัขพันธุ์แท้เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อปี ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2417) ได้มีสุนัขที่ให้การรับรองทั้งหมด 100 สายพันธุ์

ในสมัยแรก ตำรวจทำงานสร้างโปรแกรม ฝึกสุนัขตำรวจ ที่ประสบความสำเร็จ ใน 1899 ความสำเร็จของโครงการ Ghent กระตุ้นความสนใจ ไปทั่ว ทวีป ยุโรปและ โดย ปี 1910 กว่า 600 เมือง เยอรมัน ได้นำ โปรแกรมฝึกสุนัขตำรวจ ที่คล้ายกัน ออสเตรเลีย , ฮังการี และ อิตาลี ตามหลักสูตรหลังจากนั้นไม่นาน อย่างไรก็ตามมันตำรวจ อังกฤษ ก็นำสุนัขตำรวจมาใช้งาน การใช้งานของ หน่วย สุนัข ตำรวจ มันเป็น ประสบการณ์ที่ดี ที่ ส่งเสริม การพัฒนาการฝึกโดยเป็นขั้นตอนของโปรแกรม สุนัข ใน กรมตำรวจ และมันก็แพร่โปรแกรมฝึกสุนัขตำรวจไปยังพลเรือนทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา
โปรแกรม ฝึกสุนัขตำรวจ ดังกล่าว เป็นครั้งแรก ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการพัฒนา ในนครนิวยอร์กโดย ใน ปี 1907 แต่น่าเสียดายที่ มันก็ไม่เคย ได้รับการพัฒนา อย่างเต็มที่และ ถูกทิ้งร้าง ในปี 1951 ก่อนและ หลัง สงครามโลกครั้งที่สอง หลายเมือง ขนาดต่างๆ จัด หน่วย สุนัขฝึกสุนัขตำรวจ  ไม่ได้รับการสนับสนุน และปลดประจำการเป็นสุนัขตำรวจด้วย หลายปีต่อมา ใน ความท้อแท้ ได้สร้างเหตุผลในการนี้ เพื่อรื้อฟื้นฝึกสุนัขตำรวจ คนจำนวนมาก ที่ ส่วนใหญ่ ได้รวมกันเพื่อแก้ปัญหาต่อไปนี้โดยการระดมทุน ที่มีทุนไม่เพียงพอ ความยากลำบาก ใน การจัดหา สุนัขตำรวจที่เหมาะสม ขาดแคลน ทั้งเจ้าหน้าที่ฝึกอบรม ทั้งความรู้ความสามารถ ที่ต้องการ สำหรับการฝึกอบรมสุนัขตำรวจ ในการให้บริการประชาชนที่ได้มาตราฐาน และคงขาดการยอมรับ สาธารณะชน
ทั้งๆที่มี ปัญหาต่างๆและ ความจริงที่ว่า หลายโปรแกรมฝึกสุนัขตำรวจ ถูกยกเลิกส่วนใหญ่ ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องกับการ รู้สึกว่า การทำงาน สุนัข ตำรวจ ทีมีประสิทธิภาพ ในการลดความผิดทางอาญาบางประเภทได้
หลังจากที่ สงครามเกาหลี การพัฒนาความผิดทางอาญา ได้สร้างศิลปะเพื่อสร้างพฤติกรรม สุนัข และการฝึกอบรม เกิดขึ้น อย่างรวดเร็ว นี่คู่กับ อัตราการเกิดอาชญากรรมได้  สุนัขตำรวจ ทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใน อำนาจศาล ที่ ลดอาชญากรรม ได้ ถึง สัดส่วน ที่น้อยลง ในปี 1957  การจัดระเบียบและ การฝึกอบรมหน่วย สุนัขตำรวจ ที่มีประสิทธิภาพสูง ประสบความสำเร็จ ในการต่อสู้กับ อาญากรรมบางประเภทของ ความผิดทางอาญา จึงมีตัวอย่างให้หลายเมืองทำตามตัวอย่าง ของบัลติมอร์ 1970 โดย กว่า 80 หน่วยงานที่ ได้รับการ จ้าง สุนัข เป็นส่วนหนึ่งของ กองกำลัง ลาดตระเวน ของพวกเขา เหล่านี้รวมถึง เมืองใหญ่ ๆ เช่น เซนต์หลุยส์ , วอชิงตัน , ชิคาโก ฟิลาเดล และ ไมอามี่
วันนี้ นำเราไปสู่ ​​สิ่งที่เรา ทุกคนรู้ว่า เป็น K-9 หน่วย จากหลายเมือง ลาดตระเวนขั้นพื้นฐานเพื่อยาเสพติด สูงมาก ระเบิด หลักฐาน การค้นหาและ กู้ภัย และคุณ ตั้งชื่อ สุนัขตำรวจ  หน่วย K-9
นี่เป็นเพียงภาพรวมอย่างรวดเร็ว ของประวัติศาสตร์ สุนัขตำรวจ  K-9 ของโปรแกรมฝึก สุนัขตำรวจ   สำหรับบรรดาของคุณ ที่ อาจจะมีการ สุนัข ทหารตำรวจ ข้อมูลนี้ อาจดูเหมือน คุ้นเคย สุนัข ข้อมูลนี้จะถูก บรรจุอยู่ในFM 19-35 , ทหารตำรวจ ทำงาน ที่เขียน ในปี 1977
สำหรับในประเทศไทยนั้น ก็มีผู้สนใจการเลี้ยงสุนัขรวบรวมกันจัดตั้งสมาคมขึ้นเช่นกัน โดยปรารถนาจะส่งเสริมบำรุงและอำนวยประโยชน์ให้แก่ผู้เลี้ยงสุนัขเหมือนกับ ต่างประเทศ โดยใช้ชื่อว่า สมาคมผู้นิยมสุนัขแห่งประเทศไทย ได้ทำการจดทะเบียนตั้งสมาคมเมื่อปี ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498) ถือเป็นการวางรากฐานในการเลี้ยงสุนัขขึ้นในประเทศไทยเป็นแห่งแรก และตั้งใจที่จะให้เป็นประโยชน์แก่ผู้เลี้ยงสุนัขในประเทศไทยได้เช่นเดียวกับ ต่างประเทศ
 ประเภทของสุนัข แบ่งได้ 6 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้
1. สุนัขล่าเนื้อ (Hounds) มีประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นที่ดีมาก ผนวกกับความแข็งแรงของสรีระ ทำให้ Hounds เป็นสุนัขรุ่นแรกๆ ที่ถูกมนุษย์นำมาใช้ล่าสัตว์ สุนัขล่า
     เนื้ออาจแบ่งย่อย ได้อีก 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่มีสายตาดี เช่น เกรย์ฮาว์น อัฟกัน และ สะลูกี้ สุนัขพวกนี้จะว่องไว วิ่งได้เร็ว และ มีสายตาดีมาก ลักษณะทางกายภาพโดยทั่วไป จะมีรูปร่างสูง และช่วงขายาว
กลุ่มที่มีประสาทการรับกลิ่นดี เช่น บัสเสทฮาว์น ดัชชุน สุนัขประเภทนี้จะมีขาสั้นแต่แข็งแรง หัวใหญ่ หูแผ่กว้างใหญ่ และ มีประสาทสัมผัสการรับกลิ่นที่ดีมาก ดีกว่ามนุษย์ ถึง 1 ล้านเท่าทีเดียว

2. สุนัขเพื่อเกมส์กีฬา (Sporting Dogs) เป็นสุนัขพันธุ์ที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นผู้ช่วยในการล่าสัตว์โดยเฉพาะ หน้าที่ของมันคือ การค้นหาเหยื่อ และก็ นำเหยื่อที่ถูกยิงแล้ว กลับมาให้เจ้าของ เราสามารถแบ่งสุนัขเพื่อเกมส์กีฬาได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้
สเปเนี่ยน เป็นสุนัขที่มีรูปร่างขนาดกลางที่เฉลียวฉลาด จมูกรับกลิ่นได้ดีมาก มีลักษณะเด่น คือ หูจะยาว และตูบ แบ่งย่อยได้เป็น 2 กลุ่ม คือ พันธุ์ที่ใช้ล่าสัตว์ และพันธุ์ขนาดเล็ก ที่ปัจจุบันจัดอยู่ในกลุ่มสุนัขที่เลี้ยงไว้ดูเล่น ... ในขณะที่ออกล่าสัตว์ เมื่อสเปเนี่ยนพบเหยื่อ มันจะไม่ส่งสัญญาณเตือนให้เจ้าของทราบ แต่ว่ามันจะพุ่งเข้าโจมตีเหยื่อเลย เจ้าของจึงต้องให้มันอยู่ในระยะที่มองเห็นได้ คือ ประมาณ 20 - 65 เมตร เพื่อจะได้ยิงเหยื่อได้ทันก่อนจะหนีไป
พอยเตอร์ และเซทเตอร์ เป็นพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าสเปเนี่ยน ขายาว หูตูบ และ จมูกรับกลิ่นได้ดีเยี่ยม ในการออกล่าสัตว์ เจ้าของจะให้สุนัขตามรอยเหยื่อ ออกไปได้ไกลกว่า ในกรณีของสเปเนี่ยน จนบางครั้งอาจลับสายตาไปเลยก็ได้ ทั้งนี้เพราะเมื่อพบเหยื่อ สุนัขจะไม่เข้าโจมตี เหยื่อเลยทันที แต่จะส่งสัญญาณให้เจ้าของทราบ โดยการยืนและทำ จมูกฟุดฟิดไปยังจุดที่เหยื่ออยู่ หรือ บางครั้งอาจมีการยกขาหน้าร่วมด้วย สุนัขพันธุ์เซทเตอร์ ก็เช่นเดียวกัน มันจะส่งสัญญาณให้เจ้าของทราบโดยการยืนแข็งนิ่ง แล้วค่อยๆ  นั่งลง โดยสุนัขที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี จะนิ่งคอยได้เป็นเวลานาน จนกว่าเจ้าของจะออกคำสั่งต่อไป มันจึงเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง
รีทรีพเวอร์ เป็นสุนัขที่เป็นมิตร แข็งแรง มีโครงสร้างที่ดี และ เชี่ยวชาญในการล่าสัตว์ โดยสิ่งที่มันถนัดคือ การค้นหา และ นำเหยื่อที่ถูกยิงกลับมาให้เจ้าของ โดยปกติแล้ว มันมักจะทำงานร่วมกับสุนัขพันธุ์สเปเนี่ยน โดยให้สเปเนี่ยนเป็นผู้เริ่มต้นค้นหา ส่วนรีทรีพเวอร์คอยนำเหยื่อที่ถูกยิงแล้วกลับมาให้เจ้าของ นอกจากนี้ รีทรีพเวอร์ยังว่ายน้ำได้ ดี มันจึงมักถูกใช้ในการล่าสัตว์ปีกที่บินอยู่เหนือน้ำ เช่น ห่านป่า เป็นต้น
3. สุนัขเทอร์เรีย (Terriers) ถือกำเนิดในประเทศอังกฤษ มันเป็นสุนัขขนาดเล็ก ที่มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ชอบดมกลิ่น ตามรอย และ ขุดคุ้ยหาสิ่งที่มันสงสัย มันจึงถูกใช้เป็นผู้ช่วยในการล่าสัตว์ โดยเทอร์เรียจะทำหน้าที่ตามรอยสัตว์ป่า เช่น กระต่าย หนู แบดเจอร์ หมาป่า เมื่อพบที่อยู่ของเหยื่อ มันจะมุดลงไปในรู ทำให้สัตว์เหล่านั้นตกใจ วิ่งออก มาจากรัง ให้คนตามล่าต่อไป แม้เทอร์เรียจะเป็นสุนัขขนาดเล็ก ขาสั้น แต่มันกลับเคลื่อนไหวได้อย่างว่องไว มีชีวิตชีวา ผนวกกับนิสัยประจำตัวที่อดทน และกล้าหาญ ทำให้ มันถูกใช้เป็นสุนัขสงคราม บางยุคก็นำเทอร์เรียมาต่อสู้ในสนามแข่ง แต่ปัจจุบันนิยมเลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อนเล่นภายในบ้าน
  ประเภทของสุนัขเทอร์เรีย แยกย่อยได้อีกหลายพันธุ์ แต่เราอาจแบ่งเทอร์เรียเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามลักษณะของเส้นขน คือ
   1. พันธุ์ขนเรียบ และ สั้น เช่น ฟอกซ์ เทอร์เรียขนสั้น
   2. พันธุ์ขนหยาบ และ ยาว เช่น สก็อตทิช เทอร์เรีย และ เคอรี บลู เทอร์เรีย เป็นต้น
   พันธุ์ยอดนิยม
         ดังที่ได้กล่าวข้างต้นแล้วว่า สุนัขเทอร์เรียมีต้นกำเนิดในอังกฤษ ซึ่งรวมถึงสก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์ด้วย อันที่จริงแล้ว บนเกาะอังกฤษนั้น มีเทอร์เรียมากมายหลายพันธุ์ กระจายไปตามท้องที่ต่างๆ แต่เทอร์เรียส่วนหนึ่งได้กลายพันธุ์ไป คงเหลือแต่ พันธุ์ที่ได้รับความนิยม เช่น ฟ็อกซ์ เทอร์เรีย, บูล เทอร์เรีย, แบดลิงตัน และ แมนเชสเตอร์
4. สุนัขทำงาน (Working dogs) หลังจากที่นำสุนัขป่ามาเลี้ยง เพื่อช่วยล่าสัตว์ มนุษย์ก็พบว่า สุนัขเป็นสัตว์ที่มีความสามารถ เกินกว่าที่คาด มันฉลาด แข็งแกร่ง ว่องไว อด ทน สายตาดีและ ตามกลิ่นได้อย่างดีเยี่ยม สุนัขจึงถูกคัดเลือกพันธุ์ เพื่อใช้งาน นอกเหนือจากการล่าสัตว์ จนได้สายพันธุ์สุนัขทำงาน ที่มีลักษณะเด่น แตกต่างกันไปมากมาย
ทักษะที่หลากหลาย เป็นเวลานับศตวรรษแล้ว ที่มนุษย์นำสุนัขมาใช้งาน เช่น เฝ้ายาม สำรวจหาระเบิด (ในสงคราม) ลากสัมภาระ ต้อนฝูงสัตว์ ตามรอยผู้ร้าย และ ช่วยเหลือผู้ ประสบภัย ปัจจุบันสุนัข ยังทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยตำรวจ นำทางคนตาบอด ตรวจค้นหายาเสพติด ก๊าซรั่ว ระเบิด และ ล่าสุดสุนัขนั้น็ยังถูกฝึกให้ช่วยเหลือคนหูหนวกได้อีกด้วย
   ตัวอย่างของสุนัขตำรวจ ได้แก่ บ็อกเซอร์ โดเบอร์แมน พินซ์เช่อร์ รอทไวเลอร์ เยอรมันเชพเพิร์ด เกรดเดน
สุนัขขวัญใจชาวไร่ ยังมีสุนัขทำงานอีกกลุ่มหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของชาวไร่ อย่างเช่น Collie , Old English Sheepdog , German Shepherd , Shetland  Sheepdog และ Corgi โดยสุนัขพวกนี้ จะช่วยชาวไร่ในการเฝ้าฝูงปศุสัตว์ คอยต้อนสัตว์ ออกไปกินหญ้า และ กลับบ้าน เป็นต้น พวกมันช่วย ชาวไร่ทำงานได้ดีมาก จึงไม่น่าแปลกใจว่า เกือบทุกประเทศที่มีการเลี้ยงสัตว์ จะการพัฒนา สายพันธุ์สุนัขต้อนสัตว์ จนได้พันธุ์ประจำถิ่นของตนเอง เช่น Collie จากสก็อตแลนด์ Puli จากฮังการี และก็มี Corgi จากเวลส์ เป็นต้น
สุนัขจอมอึด มีสุนัขอีกพวกหนึ่งที่แข็งแกร่ง และ อดทนมาก จนสามารถทำงานหนักๆ แทนมนุษย์ได้ เช่น ในอังกฤษสุนัขถูกใช้ให้ส่งจดหมายระหว่างเมือง และก็ ลากเกวียน บรรทุกของนอกจากนี้ ประเทศในเขตอากาศหนาวมากๆ ซึ่งการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก ยังใช้สุนัข เช่น Alaskan Malamute, Siberian Husky และก็ Samoyed เพื่อเป็นพาหนะเดินทาง โดยสุนัขพวกนี้สามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 160 กิโลเมตร ภายในเวลา 18 ชั่วโมง และสุนัข 4 ตัวที่ใช้เทียมล้อเลื่อนสามารถลากเลื่อนที่ หนักถึง 180 กิโลกรัมได้ระยะทาง 30 ไมล์ต่อวันทีเดียว !!
ความสามารถเฉพาะอย่าง มนุษย์ยังใช้สุนัขทำงานอีกหลายประเภท โดยสุนัขบางพันธุ์ถูกฝึกเพื่อทำงานเฉพาะอย่าง เช่น สุนัขเซนต์ เบอร์นาร์ดถูกฝึกให้ค้นหา และ นำบรั่นดี
   ไปให้กับผู้หลงทางในหิมะ Bernese Mountain ลากเลื่อนที่บรรทุกนม และ เนยไปส่งที่ตลาด Portuguese Water Dog ดำน้ำงมหาอวนและเครื่องมือหาปลาที่ตก น้ำ หรือแม้กระทั่งปลาที่หลุดออกไปจากอวน นอกจากนี้ ยังมีสุนัขที่ทำหน้าที่ประหลาดที่สุด คือ สุนัขพันธุ์ Norwegian Lundehund ถูกใช้ให้เป็นหมาล่านก !! โดยมัน ถูกฝึกมาให้ทำงานในถ้ำ หรือหน้าผาที่สูงชัน เพื่อจู่โจมรังนกพัฟฟิน (ถ้าเป็นในไทยต้องถูกฝึกไว้เก็บรังนกนางแอ่นแน่เลย...)

5. สุนัขตุ๊กตา (Toy) เป็นสุนัขตัวเล็กๆ ซึ่งเดิมเค้าก็เป็นสุนัข ตัวใหญ่นี่แหละ แต่ถูกพัฒนาพันธุ์จนได้สุนัขตัวจิ๋ว ที่น่ารักน่าเอ็นดู สุนัขประเภทนี้เหมาะสำหรับ เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน  แก้เหงา มันมีบทบาทมาก กับคนที่อยู่คนเดียว เช่น คนชราที่ถูกทอดทิ้ง คนป่วย รวมไปถึงเด็กๆ ด้วย
อดีตสุนัขไฮโซ สุนัขตุ๊กตาถือถือกำเนิดขึ้นมาตั้งหลายพันปีแล้ว โดยเมื่อ 4,000 ปีก่อน เราพบสุนัขสิงโต (Lion Dogs) ที่หน้าตาคล้ายๆ กับ สุนัขปักกิ่งในจีน และ พบ Lap dogs ที่โด่งดังมากในกลุ่ม คนโรมันในสมัยก่อนนั้น สุนัขตุ๊กตาเป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้หญิง และเด็กๆ ในสังคมชั้นสูง เช่น ราชินีแมรี่ แห่งสก็อตแลนด์ ราชินีวิคตอเรีย พระ นางมารี อังตัวเนต และ มาดามปอมปาดัว แห่งฝรั่งเศส หรือ แม้แต่จักรพรรดินีของ จีน และ ลามะแห่งธิเบต ก็ล้วนแล้วแต่มี สุนัขคู่ใจเป็นสุนัขตัวเล็กๆ นี้กันทั้งนั้น
         แม้ว่าสุนัขตุ๊กตาจะตัวเล็ก ดูไม่มีพิษมีภัย แต่มันก็ยังมีสัญชาติญาณของสุนัขอยู่ครบถ้วน มันพร้อมที่จะปกป้องเจ้านาย และ บ้านที่มันอาศัยอยู่ โดยการเห่าเสียงดังๆ หรือ ร้องหงิงๆ เตือนเมื่อมีผู้บุกรุก และบางตัวอาจถึงขั้นจู่โจมผู้บุกรุกเลย โดยไม่สนว่าผู้บุกรุก จะตัวขนาดไหน

6. สุนัข อเนกประสงค์ (Non Sporting) เป็นสุนัขนานาประโยชน์ตามแต่เจ้าของจะใช้งาน บางท่านก็ว่า มันก็คือสุนัขที่ ไม่สามารถจัดเข้าในพวกใดพวกหนึ่ง ฟังดูแล้วดูไม่มีค่า แต่จริงๆแล้ว ไม่ใช่หรอก เพราะสุนัขพวกนี้หลายๆ พันธุ์ก็โด่งดังทะลุฟ้าเชียว เช่น สุนัขลายจุด (ดัลเมเชี่ยน) ขวัญใจเด็กๆ ไง
ประโยชน์ใช้สอยที่ไม่ธรรมดา เช่น สุนัข Lhasa Apso เป็นสุนัขที่ลามะในธิเบตเลี้ยงไว้เพื่อระวังภัย และยังถือว่าเป็นสัญญลักษณ์แห่งโชคลาภอีกด้วย สำหรับสุนัขพันธุ์ เชาเชา ซึ่งถือกำเนิดในมองโกเลียเมื่อ 3,000 ปีก่อน แรกเริ่มเดิมที ก็เป็นสุนัขที่ถูกใช้ในสงครามอยู่ดีๆ แต่ต่อมากลับถูกชาวจีนฆ่าเป็นอาหาร และนำเอาขนสัตว์ไปทำเครื่องนุ่งห่มเสียนี่ ช่างน่าอาภัพนัก ว่ากันว่า ในปัจจุบันนี้ชาวเกาหลี ส่วนหนึ่งยังนิยมกินเนื้อสุนัขเชาเชา และ พูเดิ้ลสีแดง อยู่ โดยถือว่าเป็นอาหารอันโอชะชั้นเหลาทีเดียว